คำสองกลุ่มนี้ก็คือคำกริยาที่เติม -ing ต่อท้าย แก่นของมันมีแค่นี้จริง ๆ แต่เพราะวิธีใช้จึงทำให้สองกลุ่มนี้แตกต่างกัน และก็ต่างจาก present, past, future continuous ด้วย โดยเราจะมาดูที่กลุ่มแรกก่อน
(เจอรันด์) เป็นคำกริยาที่เติม -ing ต่อท้าย แต่ทำหน้าที่เป็นคำนาม โดยมีหน้าที่อยู่ด้วยกัน 2 แบบ
1. ทำหน้าที่เป็นประธาน (Subject)
gerund ประเภทนี้สังเกตได้ง่ายมาก ๆ ก็คือประโยคใดก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยคำกริยาที่มี -ing ต่อท้าย มักจะเป็น gerund เสมอ เช่น
Sleeping can relieve some pain.
(การนอนหลับสามารถบรรเทาอาการปวดได้ในระดับหนึ่ง)
Smiling is one of the best way to greet.
(การยิ้มเป็นอีกหนึ่งในวิธีการทักทายที่ดีที่สุด)
Lifting heavy objects worsens your spine.
(การยกของหนัก ๆ จะทำให้กระดูกสันหลังของคุณแย่ลง)
ในบางครั้งเราอาจต้องสังเกตดี ๆ เพราะมันอาจมาในรูปแบบของคำนามประสม (compound noun) เช่น
Weight lifting might be dangerous to some.
(การยกน้ำหนักอาจอันตรายสำหรับบางคน)
Running shoes really help *supporting your foot.
(รองเท้าวิ่งนั้นช่วยรองรับเท้าของคุณได้จริง ๆ)
2. ทำหน้าที่เป็นกรรม (Object)
ประเภทนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่สังเกตง่าย เพราะมันจะตามหลังกริยาของประโยค และ ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยคเสมอ เช่น
Do you like hunting?
(คุณชอบล่าสัตว์ไหม?)
We need to stop bullying in school.
(พวกเราต้องหยุดการกลั่นแกล้งในโรงเรียน)
*Being good lovers means caring your love ones.
(การเป็นคนรักที่ดีคือการเอาใจใส่คู่รักของคุณ)
ตัวอย่างคำกริยาที่ตามด้วย gerund
| acknowledge (รับรู้) | admit (ยอมรับ/อนุญาต) | anticipate (ประเมิน) | appreciate (ซาบซึ้ง/ยินดี) |
| avoid (หลีกเลี่ยง) | celebrate (เฉลิมฉลอง) | consider (พิจารณา) | contemplate (ไตร่ตรอง) |
| defer (ยืดออก/ถ่วง) | delay (ถ่วงเวลา) | deny (ปฏิเสธ) | detest (ต่อต้าน) |
| dislike (ไม่ชอบ) | dread (น่ากลัว) | enjoy (เพลิดเลิน) | entail (มอบให้) |
| escape (หลบหนี) | excuse (ข้ออ้าง) | finish (เสร็จ) | forgive (ยกโทษ) |
| involve (มีส่วนร่วม) | imagine (จินตนาการ) | keep (เก็บ) | loathe (เกลียดชัง) |
| mean (หมายถึง) | mention (กล่าวถึง) | mind (ถือ/ความคิด) | pardon (ขออนุญาต) |
| prevent (ป้องกัน) | propose (ขอแต่งงาน/เสนอ) | recall (นึกถึง) | recollect (ทวนความจำ) |
| report (รายงาน) | suggest (แนะนำ) | understand (เข้าใจ) |
(พาร์ทิซิเพิล) คือการรวมกลุ่มคำจนเกิด "รูปแบบ" ที่ประกอบไปด้วยคำนาม กริยา หรืออื่น ๆ ซึ่ง Present participle จะเป็นตัวที่ได้ยินบ่อยที่สุด และมีรูปแบบคือ v.to be + v.ing จึงทำให้มันเป็นประโยค progressive ไปด้วย
หลักการแยก Present participle กับประโยค progressive หรือ continuous คือหน้าที่หรือวิธีการใช้ของมัน มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท
1. ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย (Complement)
โดยประโยค progressive จะมีโครงสร้าง v.to be + v.ing ที่เป็นกริยาแสดงให้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหรือดำเนินอยู่ในขณะนั้น เช่น
She is running to the office as fast as she can.
(เธอกำลังวิ่งไปที่สำนักงานอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้)
แต่หาก Present participle จะทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ของประโยคด้วยโครงสร้างเดียวกัน มันจะทำหน้าที่ขยายประธานของประโยค หรือคำนามที่ถูกกล่าวถึง เช่น
Billy is feeling ill and can't go to school.
(บิลลี่ป่วยและไม่สามารถไปโรงเรียนได้)
What you need to do is being more helpful.
(สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือทำตัวให้มีประโยชน์มากกว่านี้)
จากประโยคทั้งสองจะเห็นว่ากริยา "feeling" และ "being" ไม่ได้บอกการกระทำ แต่เป็นส่วนขยาย หรือ Complement (บอกสถานะหรือสภาพ) ของประธาน แม้จะมีโครงสร้างเดียวกันกับประโยค progressive ก็ตาม
อีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น
He told me she was having a great time living abroad.
(เขาบอกฉันว่าเธอมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษเมื่อตอนอาศัยอยู่ต่างแดน)
ประโยคนี้มี participle ด้วยกันถึงสองจุด โดยจุดแรก "having a great time" ขยาย she และในขณะเดียวกันจุดที่สอง "living abroad" ก็ไปขยาย "having a great time" ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้แสดงกริยาหรือการกระทำใด ๆ ของ she เลย (บอกสภาวะความเป็นอยู่เฉย ๆ)
I know we will be gaining more money after changing the job.
(ฉันรู้ว่าพวกเราจะได้เงินมากขึ้นหลังจากเปลี่ยนงาน)
ประโยคนี้มีอีกสองจุดเช่นกัน โดยจุดแรก "be gaining more money" ไปขยาย we แต่ในจุดที่สองนั้นไปขยาย "be gaining more money" ซึ่งเป็นประเภทใหม่ คือ...
2. ทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท (Gerund after preposition)
ประเภทนี้ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ gerund ที่ต่อท้ายคำบุพบท และยังพบเห็นเวลาขึ้นต้นวลี ประโยค หรือย่อหน้าใหม่อีกด้วย เช่น
After escaping from the prison, they ran and hid in a barn.
(หลังจากที่หลบหนีออกมาจากเรือนจำ พวกเขาก็วิ่งไปซ่อนตัวอยู่ในยุ้งฉาง)
I heard you are planning on giving out money to those in needs, how generous of you.
(ฉันได้ยินว่านายมีแผนที่จะแจกจ่ายเงินให้กับคนที่กำลังลำบาก นายนี่มันใจกว้างจริง ๆ)
ในประโยคที่สองจะเห็นว่า "giving out money"เป็นเพียงส่วนขยายของ "planning on" ซึ่งเป็น phrasal verb โดยมี "planning" ที่เป็นกริยาของประโยค และ "on" ที่เป็นบุพบท
3. ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective)
วิธีสังเกตรูปแบบของประเภทนี้ง่ายมาก คือ adjective ที่เป็น v.ing โดยไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาหรือส่วนขยายของประธาน เพียงแต่ทำหน้าที่ขยายคำนามของมันเอง เช่น
That sinking ship can't hold any much longer!
(เรือที่กำลังจะจมลำนั้นคงลอยอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว!)
The cooking crew is from France.
(คณะทำอาหารมาจากประเทศฝรั่งเศส)
The music sounds astonishing.
(เพลงนี่มันช่างน่าอัศจรรย์)
จะเห็นจากประโยคตัวอย่างว่าคำคุณศัพท์ที่เป็น v.ing เหล่านี้ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาหรือส่วนขยายประโยค/วลีแต่อย่างใด หากแต่ทำหน้าที่เป็น adj. ขยายตัวประธานเองหรือคำนามที่เกี่ยวข้อง