1) เข้าใจความหมายของไฟฟ้าเคมี เข้าใจและสามารถระบุได้ว่าปฏิกิริยาใดเป็นปฏิกิริยารีดอกซ์
2) สามารถแยกปฏิกิริยารีดอกซ์ ออกเป็น ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน และครึ่งปฏิกิริยารีดักชันได้
3) สามารถระบุได้ว่า สารใดเป็นตัวรีดิวซ์ และตัวออกซิไดซ์ของปฏิกิริยา
4) สามารถเปรียบเทียบความแรงของตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดซ์ได้ และทำนายปฏิกิริยาที่ควรเกิดขึ้นได้เมื่อทราบความแรงของการเป็นตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดซ์
ไฟฟ้าเคมีและปฏิกิริยารีดอกซ์ คืออะไร
ไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานไฟฟ้ากับปฏิกิริยาเคมี เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า และการใช้กระแสไฟฟ้าเข้าไปทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี
การที่จะเกิดกระแสไฟฟ้าได้ แสดงว่าต้องมีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนเกิดขึ้น
ปฏิกิริยาเคมีที่มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนเกิดขึ้น เรียกว่า ปฏิกิริยารีดอกซ์ (redox reaction)
เราสามารถทราบว่าเป็นปฏิกิริยารีดอกซ์หรือไม่ โดยพิจารณาจาก การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันของสารในสมการที่เกี่ยวข้อง
เช่น
ปฏิกิริยาระหว่างสังกะสี (Zn) กับสารละลายทองแดง (Cu2+)
เราพบว่า เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ เนื่องจากสังกะสีมีการเพิ่มเลขออกซิเดชัน จาก 0 (ใน Zn) เป็น +2 (ใน Zn2+) แสดงว่า Zn เสียอิเล็กตรอน ขณะที่ไอออนทองแดงมีการลดเลขออกซิเดชัน จาก +2 (ใน Cu2+) เป็น 0 (ใน Cu) แสดงว่า มีการรับอิเล็กตรอน
เราสามารถแยกส่วนในปฏิกิริยารีดอกซ์ออกเป็น 2 ปฏิกิริยาย่อย และเรียกแต่ละส่วนว่า ครึ่งปฏิกิริยา (half-cell reaction) ได้เป็น
ในปฏิกิริยาระหว่าง Zn กับ Cu2+
เรานิยาม สารที่เป็นตัวให้อิเล็กตรอน เรียกว่า ตัวรีดิวซ์ (reducing agent) และ สารที่เป็นตัวรับ (หรือดึง)อิเล็กตรอนจากสารอื่น เรียกว่า ตัวออกซิไดซ์ (oxidizing agent)
ในปฏิกิริยาระหว่าง Zn กับ Cu2+ Zn จึงเป็นตัวรีดิวซ์ เพราะเป็นตัวเสียอิเล็กตรอน และ Cu2+ เป็นตัวออกซิไดซ์เพราะเป็นตัวรับอิเล็กตรอน
เนื่องจากปฏิกิริยารีดอกซ์ ต้องเกิดทั้งส่วนที่ให้และรับอิเล็กตรอนพร้อมกัน เมื่อ Zn เสียอิเล็กตรอนก็ต้องมี Cu2+ มารับอิเล็กตรอน ซึ่งอาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า Zn ถูกทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันโดย Cu2+ ดังนั้น Zn ซึ่งเป็นตัวรีดิวซ์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ตัวถูกออกซิไดซ์ (oxidized agent) และในทำนองเดียวกัน Cu2+ ซึ่งเป็นตัวออกซิไดซ์ ก็มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ตัวถูกรีดิวซ์ (reduced agent)
ดังนั้น สรุปได้ว่า
ตัวอย่าง 2 ปฏิกิริยาระหว่างสังกะสี (Zn) กับกรด (H+)
พบว่า สังกะสี เพิ่มเลขออกซิเดชัน จาก 0 (ใน Zn) เป็น +2 (ใน Zn2+) à ดังนั้น Zn/Zn2+ เป็นครึ่งออกซิเดชัน
และ ไฮโดรเจน ลดเลขออกซิเดชัน จาก +1 (ใน H+) เป็น 0 (ใน H2) à ดังนั้น H+/H2 เป็นครึ่งออกซิเดชัน
เขียน แยกครึ่งปฏิกิริยา ได้ ดังนี้
ในครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน มี Zn เป็นตัวให้อิเล็กตรอน ดังนั้น Zn เป็นตัวรีดิวซ์ (หรือตัวถูกออกซิไดซ์) โดยมี Zn2+ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ส่วนในครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน มี H+ เป็นตัวรับอิเล็กตรอน ดังนั้น H+ ตัวออกซิไดซ์ (หรือ ตัวถูกตัวรีดิวซ์) โดยมี H2(g) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน
ทำได้โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสารที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันของสาร เช่น เมื่อโลหะถูกออกซิไดซ์ โลหะจะถูกกัดกร่อนกลายเป็นไอออนของโลหะ ซึ่งสามารถละลายในน้ำได้ และสารละลายของไอออนของโลหะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะธาตุในกลุ่มโลหะทรานซิชันจะมีสีเฉพาะตัว ทำให้บอกได้มีเลขออกซิเดชันและการเปลี่ยนแปลงสีอาจจะทำให้ทราบการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันได้ด้วย ส่วนสารละลายของไอออนเมื่อรับอิเล็กตรอนแล้วจะกลายเป็นโลหะ ซึ่งจะตกตะกอนออกมาจากสารละลาย ทำให้ทราบว่าเกิดปฏิกิริยารีดักชันแล้ว
ตัวอย่าง ปฏิกิริยาระหว่างสังกะสี (Zn) กับ Cu2+ จะสังเกตเห็นสารละลายของ Cu2+ ที่เป็นสีฟ้าใส หลังจุ่มแผ่นสังกะสีลงในสารละลาย จะทำให้สีฟ้าของ Cu2+ จางลงและพบมีของแข็งสีน้ำตาล (โลหะ Cu) มาเกาะบนแผ่น สังกะสีขณะเดียวกันจะพบว่า แผ่นสังกะสีเกิดการสึกกร่อนและบางลง เนื่องจาก Zn กลายเป็น Zn2+ ไอออน
จากการที่เราจุ่มแผ่นโลหะ Zn ลงในสารละลาย Cu2+ แล้วพบว่าเกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ แสดงว่า Cu2+ รับอิเล็กตรอนจาก Zn ได้
แต่เมื่อทดลองสลับกันโดยนำแผ่นทองแดง (Cu) ไปจุ่มลงในสารละลาย Zn2+ แล้วพบว่าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Zn2+ ไม่สามารถดึงอิเล็กตรอนจากโลหะ Cu ได้
และเมื่อทดลองเพิ่มโดยนำแผ่นทองแดงไปจุ่มในสารละลายของเงิน (Ag+) พบว่า ทองแดงเกิดการสึกกร่อนและสารละลายเปลี่ยนเป็นสีฟ้าของ Cu2+ และเกิดโลหะเงินขึ้น แสดงว่า Ag+ ดึงอิเล็กตรอนจาก Cu ได้
ดังนั้น สรุปได้ว่า
ความสามารถในการดึงอิเล็กตรอน หรือ ความแรงของการเป็นตัวออกซิไดซ์ ของ Ag+ > Cu2+ > Zn2+
และในทางกลับกัน แสดงว่า Zn ได้ง่ายที่สุด
ดังนั้น ความแรงของการเป็นตัวรีดิวซ์ของ Zn > Cu > Ag
ซึ่งข้อมูลข้างต้น ทำให้เราสามารถทำนายปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ถ้าจุ่มแผ่นสังกะสีลงในสารละลาย Ag+ เกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ได้ เนื่องจาก Ag+ สามารถดึงอิเล็กตรอนได้ดีกว่า Cu2+ ดังนั้น ต้องดึงอิเล็กตรอนจาก Zn ได้แน่
และทำให้สามารถอนุมานได้ว่า หากจุ่มแผ่นโลหะเงินลงในสารละลาย Cu2+ หรือ Zn2+ จะไม่เกิดปฏิกิริยาเนื่องจากทั้ง Cu2+ และ Zn2+ เป็นตัวออกซิไดซ์ที่อ่อนกว่า Ag+ จึงไม่สามารถดึงอิเล็กตรอนจาก Ag ได้